เมนู

ว่าด้วยกุศลกรรม 5 ประเภท



บัดนี้ พึงทราบวินิจฉัยกุศลกรรมบถเหล่านี้ โดยอาการ 5 อย่าง
เหมือนอกุศลกรรมบถ คือ โดยธรรม โดยโกฏฐาส โดยอารมณ์ โดย
เวทนา โดยมูล.
บรรดากุศลกรรม 5 ประเภทนั้น คำว่า โดยธรรม ความว่า
จริงอยู่ บรรดากรรมบถ. เหล่านั้น กรรมบถ 7 โดยลำดับ (กายสุจริต 3
วจีสุจริต 4) ย่อมเป็นเจตนาและเป็นทั้งวิรัติ กรรมบถ 3 เบื้องปลายเป็น
ธรรมสัมปยุตด้วยเจตนาเท่านั้น.
คำว่า โดยโกฏฐาส ความว่า กรรมบถ 7 โดยลำดับเป็นกรรมบถ
อย่างเดียวไม่เป็นมูล. กรรมบถ 3 เบื้องปลายเป็นกรรมบถด้วย เป็นมูลด้วย.
จริงอยู่ อนภิชฌา คือ อโลภะเพ่งถึงมูลแล้วก็เป็นกุศลมูล อัพยาบาท คือ
อโทสะเป็นกุศลมูล สัมมาทิฏฐิ คือ อโมหะเป็นกุศลมูล.
คำว่า โดยอารมณ์ ความว่า อารมณ์ทั้งหลายของปาณาติบาตเป็นต้น
นั่นแหละก็เป็นอารมณ์ของกุศลกรรมเหล่านั้น. จริงอยู่ การงดเว้น (วิรัติ)
จากวัตถุที่พึงก้าวล่วงนั่นแหละ ชื่อว่า เวรมณี. เหมือนอย่างว่า อริยมรรคมี
นิพพานเป็นอารมณ์ ย่อมละกิเลสทั้งหลาย ฉันใด ก็กรรมบถเหล่านี้มีชีวิตินทรีย์
เป็นต้นเป็นอารมณ์ พึงทราบว่า ย่อมละความเป็นผู้ทุศีลทั้งหลายมีปาณาติบาต
เป็นต้น ฉันนั้น.
คำว่า โดยเวทนา ความว่า กุศลกรรมบถทั้งหมดเป็นสุขเวทนา
หรืออุเบกขาเวทนา. จริงอยู่ เพ่งถึงกุศลแล้ว ชื่อว่า ทุกขเวทนาย่อมไม่มี.
คำว่า โดยมูล ความว่า กรรมบถ 7 โดยลำดับ ย่อมมี 3 มูล คือ
อโลภะ อโทสะ อโมหะ ของบุคคลผู้งดเว้นด้วยจิตอันสัมปยุตด้วยญาณ
มี 2 มูลของบุคคลผู้งดเว้นด้วยจิตไม่ประกอบด้วยญาณ. และมี 2 มูล ของ